เฟเดริโก้ เคียซ่าเดินออกไปที่สนามเวมบลีย์โดยเหลือเวลาปกติอีก 6 นาที และเกม 16 ทีมสุดท้ายที่ตึงเครียดนี้
ยังคงทำประตูไม่ได้ เรื่องราวของเกมจนถึงจุดนั้นเป็นแนวรับที่ปราณีตจากออสเตรีย ซึ่งแสดงให้เห็นการแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยมกับทีมที่คาดหวังมากที่สุดว่าจะทำให้พวกเขาพ่ายแพ้เสียงนกหวีดสุดท้ายเกิดขึ้นเพื่อบรรเทาผู้เล่นของอิตาลีซึ่งตกอยู่ในการเบียดเสียดกับผู้จัดการของพวกเขา ข้อความของ Roberto Mancini นั้นชัดเจนแม้กระทั่งข้างสนาม หายใจเข้า รีเซ็ตคันเร่ง
และอิตาลีก็พบอุปกรณ์อื่น การกระทำจริงครั้งแรกของ Chiesa คือการยิงทะลุไปทางขวาและยิงในนัดที่ต่ำ ครู่ต่อมา เมื่อนาฬิกาเดินไปที่ 94 นาที เขาทำอะไรบางอย่างที่น่าตกใจ คืบคลานไปข้างหลังในปีกเดียวกัน ควบคุมบอลสูงด้วยหัวและไหล่ของเขา กระโดดเข้าไปภายในมาร์ติน ฮินเทอเร็กเกอร์ จากนั้นจึงตีกลับเข้าประตูและเข้าประตู มุมมันเป็นเป้าหมายที่ยอดเยี่ยม เป็นการแสดงออกถึงความล้ำหน้าคุณภาพสูงของ Chiesa และช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจที่อิตาลีต้องการอย่างมากหลังจากครึ่งหลังที่เต็มไปด้วยขนสัตว์ สิบนาทีต่อมา มัตเตโอ เปสซิน่า เสริมอีกหนึ่งวินาที หยิบบอลหลุดหลังจากเตะมุม และพลิกตัวเพื่อยิงลูกยิงที่ยอดเยี่ยมข้ามดาเนียล บาคมันน์ และเข้ามุมอีกมุมหนึ่ง
อิตาลีได้แสดงความตั้งใจที่นี่เพื่อแยกตัวออกจากเกมที่ทรหด รอบก่อนรองชนะเลิศในมิวนิกรออยู่ ความรู้สึกของทีมที่ก้าวผ่านการแข่งขันครั้งนี้มักจะจางหายไปในบางจุด แต่พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นสำหรับประสบการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ bo-advertising.com และเพื่อบรรเทาพลังงานที่ระเบิดออกมาในช่วงต่อเวลาพิเศษและในตอนท้ายเกมน็อคเอาท์ที่สองเหล่านี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นโลกเล็กๆ ของยูโร
เป็นการประกบกันที่สนุกสนานและเต็มกำลังระหว่างสองทีมที่เล่นกันอย่างสุดเหวี่ยงขั้นบันไดที่กว้างใหญ่ของเวมบลีย์
ถูกจุดโดยชาวอิตาลีและชาวออสเตรียที่เดินทางท่องเที่ยวบนเกาะเล็ก ๆ สีฟ้าและสีแดงที่อยู่ตรงกลางของที่นั่งแบบพลิกขึ้นที่ว่างเปล่าเหล่านั้นดาร์บี้ข้ามเทือกเขาแอลป์นี้มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ของตัวเอง เพลงชาติของอิตาลีครั้งหนึ่งเคยถูกห้ามในอิตาลีเนื่องจากต่อต้านออสเตรียมากเกินไป ซึ่งเป็นมรดกของอำนาจจักรวรรดิฮับส์บูร์กในภูมิภาค
เสื้อแดงและขาวเหล่านั้นเริ่มต้นด้วยจุดประสงค์บางอย่างที่นี่ ซาเวอร์ ชลาเกอร์มีงานยุ่งและมีรอยช้ำในตำแหน่งกองกลาง และอิตาลีใช้เวลาสักครู่เพื่อปรับตัว มันชินี่รักษามาร์โก แวร์รัตติไว้ได้ในตำแหน่งกองกลาง แต่ระบบของอิตาลีไม่มีความลึกลับจริงๆ 4-3-3 ที่มีแบ็คซ้ายอยู่ทางซ้ายและซ้อมเพรสอย่างดี การหยุดมันเป็นอีกเรื่องหนึ่งแต่ออสเตรียกลับครองบอลได้นิ่งตั้งแต่เนิ่นๆ และปิดปีกได้รวดเร็ว ลีโอนาร์โด สปินาซโซลา พุ่งเข้าประตูแรกหนึ่งครั้ง และอีก 10 นาทีจบลงด้วยการยิงเข้าตาข่ายด้านข้าง เขามีร่างกายที่มหัศจรรย์ มีบางอย่างของฮาเวียร์ ซาเน็ตติในการก่อกวนทหารม้าของเขาการยิงประตูแรกของอิตาลีมาจากด้านนั้น Spinazzola พุ่งออกไปอีกครั้งและส่งกลับให้กับNicolò Barella ซึ่งการยิงต่ำถูกบล็อกโดย Bachmann ที่แย่งชิง
ทันใดนั้น ออสเตรียก็ถูกล้อม เสื้อสีน้ำเงินก็ส่งเสียงอึกทึกไปด้วยพลังที่คุ้นเคย ฮินเทอเร็กเกอร์นำหนึ่งการบุกออกจากการปิดล้อม การผ่านของเขาไปยัง Marko Arnautovic ลดลงเล็กน้อย อาร์เนาโตวิช ศิลปิน ปรมาจารย์ ผู้เย่อหยิ่ง แจ้งให้เขาทราบเช่นเดิมด้วยเวลา 31 นาทีที่หายไป Ciro Immobile หันกลับมาและส่งช็อตจุ่มที่ยอดเยี่ยมไปที่ด้านบนสุดของโพสต์ เมื่อถึงช่วงพัก อิตาลีได้รวบรวม 11 ความพยายามในการเข้าประตูของออสเตรียและสร้างช่วงเวลาแห่งการครอบงำ
โดยไม่พบช่วงเวลาของรอยบากออสเตรียอาจจะท่วมท้น แต่พวกเขาเริ่มต้นครึ่งหลังอย่างสดใส รักษาบอล จากนั้นบังคับให้เตะฟรีคิกขณะที่จิโอวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่โดนใบเหลืองทำฟาวล์ตรงกรอบเขตโทษของอิตาลี David Alaba หมุนบอลข้ามกำแพงแต่ไม่สามารถดรอปได้ออสเตรียได้ตอกย้ำภัยคุกคามทางด้านซ้ายของอิตาลีแล้ว พวกเขาเริ่มยืนยันตัวเองอย่างต่อเนื่อง และในนาทีที่ 64 ดูเหมือนจะขึ้นนำ ต้องขอบคุณการจบสกอร์ที่ดีจากอาร์เนาโตวิช มันถูก VAR ตัดออกเพราะล้ำหน้า อิตาลีดูทรุดโทรมสุดๆ เมื่อเดินกลับไปเตะคิกออฟ
Comments