เวลส์ที่เฉื่อยชามีประเด็น แต่ยังเหลือพื้นที่ให้ปรับปรุงอีกมาก

การแข่งขันรายการใหญ่ที่มีกลิ่นเหม็นเป็นประสบการณ์ที่ประเทศขนาดกลางส่วนใหญ่ต้องทน

ในบางจุดและเป็นเวลานานในอาเซอร์ไบจานดูเหมือนว่าเวลส์อาจกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงที่ไม่พึงประสงค์ ฟีเจอร์ที่ชวนให้นึกถึงยูโร 2016 ทั้งหมดก่อนเกมเปิดการแข่งขันครั้งล่าสุดของพวกเขานั้นดีและหรูหรา แต่มีคนสงสัยว่าส่วนหนึ่งของประเด็นนั้นหายไปท่ามกลางการรำลึกถึงหรือไม่

ในฝรั่งเศสเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เวลส์ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขากลับมาจากการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ว่าไม่จำเป็นต้องมีจุดด้อยใดๆ พวกเขาเป็นพลังที่ต้องคำนึงถึง และก่อนจะพบกับสวิตเซอร์แลนด์ พวกเขายังได้เปรียบในการพูดให้กำลังใจก่อนการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ

จากคู่แข่งในกลุ่มเอ อิตาลีได้แสดงให้เห็นในคืนวันศุกร์ถึงข้อดีของความกล้าหาญ ความเข้มข้น และไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าเวลส์จะได้รับแรงบันดาลใจจากตุรกีในขณะที่พวกเขาเริ่มต้นอย่างเชื่องช้า นี่ไม่ใช่ความสงบที่เกิดจากความสำเร็จของพวกเขาในยูโร 2016 มันดูเหมือนเซื่องซึมหรือความคิดที่สับสน บางทีความร้อนและที่นั่งว่างที่แผ่ขยายออกไปก็ทำให้ความเอร็ดอร่อยลดลง แต่สวิตเซอร์แลนด์ดูเหมือนค่อนข้างจะรอดพ้นจากข้อเสียเหล่านั้น เวลส์ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตจากหนังสือเด็ก มังกรที่กลัวไฟ

ถึงแม้ว่าคีฟเฟอร์ มัวร์จะแสดงความอันตรายตั้งแต่เนิ่นๆ โดยนำการเซฟมือเดียวที่ยอดเยี่ยมจากยานน์ ซอมเมอร์ด้วยลูกโหม่งจากแดน เจมส์ หนึ่งนาทีต่อมา มัวร์ปะทะหัวกับเควิน เอ็มบาบู ขณะที่เขากระโดดไปพบกับไม้กางเขนอีกอันหนึ่ง idmanpisti.com บาดแผลถูกบาดแผลที่นำไปสู่การห่อผ้าสีแดง ดูเหมือนว่าผู้เล่นชาวเวลส์อีกหลายคนกำลังเล่นผ้าปิดตา การจ่ายบอลผิดมีเพียงไม่กี่ครั้งที่เวลส์ได้บอลจากคู่ต่อสู้ที่มีความมั่นใจมากขึ้น

แกเร็ธ เบลเป็นเพียงตัวสำรองในครึ่งแรก โดยได้สัมผัสบอลน้อยกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ

และทำเพียงเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ริคาร์โด้ โรดริเกซ แบ็คซ้ายของสวิตเซอร์แลนด์ทางยุทธวิธีและทางร่างกาย เวลส์ทำงานได้ไม่ดี ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นการทดสอบครั้งใหญ่สำหรับ Robert Page ซึ่งเลื่อนขั้นจากผู้ช่วยผู้จัดการเป็นผู้จัดการในเดือนพฤศจิกายน

กฎของฟุตบอลในขณะเดียวกันเปิดให้สอบปากคำเพิ่มเติมในครึ่งแรกเมื่อ Fabian Schär ต่อย James ลงไปที่พื้นนอกกรอบเขตโทษของสวิตเซอร์แลนด์ โดยรู้ดีว่าเขาจะได้รับเพียงใบเหลืองและโอกาสในการทำประตูของเวลส์ จากการเตะฟรีคิกนั้นต่ำกว่าที่เจมส์ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่พื้นที่ต่อไป การลงโทษเพียงอย่างเดียวสำหรับความผิดดังกล่าวคือการให้จุดโทษไม่ว่าการฟาล์วจะเกิดขึ้นที่ใด

ไม่เช่นนั้น กองหลังจะยังคงใช้ช่องโหว่ต่อไปโดยเสียค่าใช้จ่ายในการจู่โจมฟรี คิดไว้นะ เวลส์อาจสร้างความเสียหายจากการเตะฟรีคิกได้ ซึ่งเบลในผลงานหลักของเขาในครึ่งแรก หล่นลงไปทางเสาหลังอย่างเชิญชวน แต่ไม่มีเพื่อนร่วมทีมที่เฉียบแหลมพอที่จะคาดเดาได้สวิตเซอร์แลนด์ควรได้จุดโทษก่อนครึ่งแรกเช่นกัน แต่ผู้ตัดสินล้มเหลวที่จะสังเกตเห็น Chris Mepham พยายามถอดเสื้อของ Breel Embolo ก่อนที่กองหน้าจะใส่ Haris Seferovic สำหรับสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นลูกที่ผิดพลาด

อะไรก็ตามที่เพจพูดในช่วงพักครึ่งไม่ได้สร้างความแตกต่าง เวลส์ยังคงเลอะเทอะในครึ่งหลังและดูเหมือนใช้เวลาเพียงไม่นานก่อนที่พวกเขาจะถูกลงโทษ ยังคงน่าประหลาดใจที่เห็นเอ็มโบโลได้รับอนุญาตให้โหม่งบอลจากมุมหนึ่ง โดยมีกองหลังที่ใกล้ที่สุดคือคอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ ยึดกองหน้าแต่ดูงุนงงราวกับชายคนหนึ่งพยายามหาแท็กซี่ให้ลูกเห็บขณะที่มีคนก้าวเข้ามา ตรงหน้าเขา